วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

โครงงาน
การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่
ผู้จัดทำโครงงาน
                  เด็กหญิง  ศิริวิมล    ประกอบธรรม          ชั้น ม.3/2     เลขที่ 19
                                            อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน
           นางสาว  ขวัญดรุณ     ทองสุข

โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ 
ประจำปีการศึกษาที่ 2/2558

โรงเรียนวัดคลองครุ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร



บทคัดย่อ
     ''โรคไข้หวัดใหญ่''นี้เป็นโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Education Media Development)ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา ซึ่งผู้จัดทำจะใช้เว็บไซต์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาเรื่อง “โรคไข้หวัดใหญ่” เป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน



กิตติกรรมประกาศ
                โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยความช่วยเหลืออย่างดียิ่งของ คุณครู ขวัญดรุณ ทองสุข  อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้ให้คำแนะนำ และข้อคิดเห็นต่างๆมาโดยตลอด และ ขอขอบคุณ และขอบใจ ครอบครัวและเพื่อนๆของผู้จัดทำโครงงาน ที่คอยให้กำลังใจ และถามไถ่ความเป็นไปของโครงงานอยู่เสมอ ทำให้ผู้จัดทำโครงงานมีกำลังใจที่จะพัฒนาโครงการจนสำเร็จได้ ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้




สารบัญ

                              บทที่1 บทนำ                                                                                        หน้า 1 -2
                              บทที่2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
                                        2.1 โรคไข้หวัดใหญ่                                                                 หน้า 3-7
                                         2.2 สร้างเว็บบล็อก(Blogger)                                                 หน้า 8-10
                              บทที่3 วิธีดำเนินการ                                                                           หน้า  10-12
                              บทที่4 ผลการดำเนินการ                                                                    หน้า 13
                              บทที่5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ                                                       หน้า 14-15
                              บรรณานุกรม                                                                                       หน้า  16
                              ภาคผนวก                                                                                             หน้า 17

บทที่ 1
บทนำ
1.   แนวคิดที่มาของโครงงาน
                     เทคโนโลยีทางการสื่อสาร เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน เริ่มมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และมีส่วนช่วยสนับสนุนสื่อทางด้านการศึกษาอีกด้วยโดยสื่อสมัยใหม่นิยมเป็น สื่อการเรียนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพราะ สะดวกรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย
          โรคไข้หวัดใหญ่จัดเป็นปัญหาหลักทางสาธารณสุขที่พบมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยพบว่าคนที่อยู่ในเมืองที่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่อีกทั้งยังมีปัญหาการเจ็บป่วยต่าง ๆ มากมายสืบเนื่องมาจากไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากไขหวัดใหญ ่สายพันธั ุ์ใหม่ 2009 ส่งผล กระทบต่อสุขภาพไม่เพียงแต่ทำให้ เจ็บป่วยแต่หากบางรายถึงขั้นเสียชีวิต นอกจากผลต่อสุขภาพ ดงกล่าวแล้วยังมีกระแสการรายงานข่าวการแพร่ระบาดของจานวนผู้  ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น เรื่อยๆ
           ดังนั้นข้าพเจ้าจึงคิดทำโครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อทางการศึกษาเรื่อง ''โรคไข้หวัดใหญ่''โดยได้รวบรวมข้อมูล เนื้อหาความรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่และจัดทำเป็นเว็บบล็อก   เพื่อเป็นประโยชน์และเฝ้าระวังปัญหาไขหวัดใหญ่
2.  วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่
2.2 เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
2.3 เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป      
         
3.  ขอบเขตของโครงงาน
3.1      ศึกษาสาเหตุการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่
3.2      ศึกษาการแพร่เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่
3.3      เพื่อศึกษาโรคที่มาพร้อมกับโรคไข้หวัดใหญ่
3.4      ศึกษาวิธีการป้องกัน และรักษาการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่

4. วิธีการดำเนินงาน
4.1      กำหนดปัญหา เพื่อที่จะศึกษาโรคไข้หวัดใหญ่
4.2      ขอคำแนะนำจากครูที่ปรึกษาโครงงาน
4.3      ประชุมกลุ่มแบ่งหน้าที่การหาข้อมูล
4.4       ประชุมการวางแผนเบื้องต้น
4.5      ลงมือปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้
4.6      รวบรวมข้อมูล
4.7      ประเมินผลการศึกษา
5. ระยะเวลาในการดำเนินงาน
             การดำเนินงานครั้งนี้ใช้ระยะเวลาตั้งแต่วันที่  1 มีนาคม พ.. 2559  ถึง 16  มีนาคม  .. 2559
6.  ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ได้ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่
2. ได้ทราบวิธีการป้องกันการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตนที่ถูกต้องต่อไป
3. ได้สื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่
บทที่ 2
เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
            การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่ คณะผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าเสนอเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

โรคไข้หวัดใหญ่
  1. โรคไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza หรือ flu) เป็นอีกโรคพบบ่อยในทุกอายุทั้งในเด็กจน ถึงผู้สูงอายุ และมีโอกาสเกิดใกล้เคียงกันทั้งในผู้หญิงและในผู้ชาย เป็นโรคเกิดได้ตลอดปี แต่พบได้สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว
  2. โรคไข้หวัดใหญ่เกิดได้อย่างไร?ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคเกิดจากติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza viruses) เป็นโรคติด ต่อทางเดินหายใจเช่นเดียวกับโรคหวัด (ไข้หวัดธรรมดา หรือ ไข้หวัด) แต่จากไวรัสคนละชนิด และมีความรุนแรงสูงกว่าโรคหวัดธรรมดามากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ย่อย ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ย่อยมีความรุนแรงของโรคต่าง กัน และเป็นไวรัสในกลุ่มเดียวกับไวรัสไข้หวัดนก แต่เป็นคนละสายพันธุ์ย่อย
  3. โรคไข้หวัดใหญ่มีอาการอย่างไร?อาการสำคัญของโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้สูง บางครั้งสูงมาก 38 - 41 อง ศาเซลเซียส (Celsius) โดยไข้ขึ้นสูงภายใน 1 วัน ปวดศีรษะมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาเคลื่อนไหว มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง ปวดกล้ามเนื้อ/ปวดเมื่อยเนื้อตัวอ่อนเพลียมาก ไอแห้ง ๆ เจ็บคอ คัดจมูก เบื่ออาหาร ทั้งหมดเป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่อาการที่อาจพบได้และเป็นอา การรุนแรงกว่า เช่น หายใจเหนื่อย หอบ หายใจมีเสียงหวีด ไอรุนแรง หนาวสั่น คลื่นไส้ ท้อง เสีย มึนงง ซึม และ/หรือ หัวใจล้มเหลว
  4. โรคไข้หวัดใหญ่รุนแรงไหม? มีโรคแทรกซ้อนไหม?โดยทั่วไป ในโรคไข้หวัดใหญ่ ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อน (ผลข้างเคียงอาการไข้ และอา การต่างๆจะดีขึ้นภายใน 5 - 7 วัน ผู้ป่วยจะค่อยๆฟื้นตัวกลับเป็นปกติ แต่ในเด็กเล็ก คนท้อง/หญิงตั้งครรภ์ ในผู้สูงอายุ หรือเมื่อมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ (กลุ่มเสี่ยง) ภายหลังไข้ลง อาจยังมีอาการอ่อนเพลียมากต่อเนื่องได้อีกหลายสัปดาห์โรคแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ มีทั้งชนิดไม่รุนแรงและชนิดรุนแรงชนิดไม่รุนแรง เช่น การอักเสบ           ของหูชั้นกลาง (หูติดเชื้อ, หูน้ำหนวก) และของไซนัส (ไซนัสอักเสบ)แต่เมื่อมีโรคแทรกซ้อนชนิดรุนแรง ซึ่งมีโอกาสเกิดสูงในบุคคลกลุ่มเสี่ยง อาจเป็นสาหตุให้เสียชีวิตได้ เช่นปอดบวมผู้ป่วยโรคหืด จะมีอาการรุนแรงขึ้นมากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และ/หรือ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบสมองอักเสบ และ/หรือ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดอัมพาต ชัก แขน/ขาอ่อนแรง และโคม่า




  1.  โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่ออย่างไร?โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อได้โดยวิธีเช่นเดียวกับโรคหวัด โดยติดต่อทางการหายใจ จากการไอ จามของผู้ป่วย, จากเชื้อที่อยู่ในละอองอากาศเข้าสู่จมูกจากการหายใจ หรือสัมผัสกับเยื่อตา หรือ เยื่อเมือกช่องปาก, และจากสัมผัสเชื้อโดยตรง เช่น จากมือสัมผัสเชื้อ แล้วมือเช็ดปาก หรือขยี้ตา ซึ่งการแพร่กระจายเกิดได้สูงในสัปดาห์แรกของอาการ
  2. แพทย์วินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างไร?โดยทั่วไป แพทย์วินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่ได้จากอาการและการตรวจร่างกาย แต่ที่แน่ นอน คือ การตรวจเพาะเชื้อ จากลำคอโพรงหลังจมูก และเสมหะ และ การตรวจเลือดดูสารภูมิต้านทานโรค
  3. โรคไข้หวัดใหญ่รักษาอย่างไร?โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวทางดูแลรักษาเช่นเดียวกับในโรคหวัด ซึ่งที่สำคัญคือ พักผ่อนมาก ๆ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ (เมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม) ให้ยาลดไข้พาราเซตามอลหรือตามแพทย์แนะนำ (ห้ามใช้ยาแอสไพริน โดยเฉพาะในเด็ก เพราะอาจเกิดการแพ้ยาแอสไพริน) ไม่ควรกินยาปฏิชีวนะเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ในรายที่รุนแรงหรือกลุ่มเสี่ยง อาจรักษาโดยยาต้านไวรัสตั้งแต่เริ่มมีอาการ
  4.   มีวิธีดูแลตนเองอย่างไร? และควรพบแพทย์เมื่อไร?การดูแลตนเอง/การพบแพทย์ เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ที่สำคัญ คือการดูแลตนเอง/การพบแพทย์ เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ที่สำคัญ คือ8.1เมื่อมีไข้ ควรหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวและของใช้จากผู้อื่น เพื่อพักผ่อนและป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
    8.2พักผ่อนให้มากๆ
    8.3รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ลดโอกาสเกิดโรคข้างเคียงแทรกซ้อนและลดการแพร่เชื้อ
    8.4พยายามกินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ในทุกวัน
    8.5ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม
    8.6กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามแพทย์/พยาบาล/เภสัชกรแนะนำ ไม่ควรกินยาแอสไพรินเพราะอาจเกิดการแพ้ ดังกล่าว
    8.7ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ และทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
    8.8ใช้ทิชชู่ในการสั่งน้ำมูกหรือเช็ดปาก ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้า หลังจากนั้นทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขอนามัย
    รู้จักใช้หน้ากากอนามัย
    8.9งดบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ เพราะเป็นสาเหตุให้อาการรุนแรงขึ้น
    8.10ควรรีบพบแพทย์เมื่อไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส และไข้ไม่ลดลงหลังได้ยาลดไข้ภายใน 1 - 2 วันเมื่อเป็นคนในกลุ่มเสี่ยง ภายใน 3 วันเมื่อเป็นคนสุขภาพแข็งแรง
    8.11มีผื่นขึ้น
    8.12ดื่มน้ำได้น้อยหรือกินอาหารได้น้อย
    8.13ไอมาก มีเสมหะ และ/หรือ เสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งแสดงว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
    8.14อาการไม่ดีขึ้นหลังไข้ลง หรือ หลังไข้ลงกลับมีไข้อีก
    8.15เป็นโรคหืด เพราะโรคหืดมักกำเริบและควบคุมเองไม่ได้
    8.16อาการต่างๆเลวลง
    8.17เมื่อกังวลในอาการควรพบแพทย์เป็นการฉุกเฉิน เมื่อหอบเหนื่อยร่วมกับไอมาก อาจร่วมกับนอนราบไม่ได้ เพราะเป็นอาการแทรกซ้อนจากปอดบวม
    8.18เจ็บหน้าอกมากร่วมกับหายใจขัด เหนื่อย เพราะเป็นอาการจากอาการแทรกซ้อนจากเยื่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
    8.19ชัก ซึม สับสน แขน/ขาอ่อนแรง อาจร่วมกับปวดศีรษะรุนแรง และคอแข็ง เพราะเป็นอาการแทรกซ้อนจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และ/หรือ สมองอักเสบ
โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ไหม?                                                                                                                                           
  9.1โรคไข้หวัดใหญ่ป้องกันได้ที่สำคัญ คือรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) พักผ่อน
        ให้มากๆ  กิน อาหารมี    ประโยชน์ให้ครบห้าหมู่ทุกวัน โดยเพิ่มผัก/ผลไม้มากๆ                                                                   
   9.2ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆและทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ                                                       
   9.3หลีกเลี่ยงการคลุกคลีสัมผัสผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการไปในที่แออัด                                                                         
   9.4รักษาความสะอาดของใช้ส่วนตัว เช่น ไม่ใช้ช้อน แก้วน้ำ ร่วมกับบุคคลอื่น                                                  
   9.5ไม่ใช้มือไม่สะอาดขยี้ตา ล้างมือก่อนเมื่อจะสัมผัสดวงตา                                                                                     
    9.6รู้จักใช้หน้ากากอนามัย                                                                                                                                             
   9.7เมื่อเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือต้องดูแลผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์ขอรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

  โรคไข้หวัดใหญ่ต่างจาก โรคหวัดไหม?                                                                                                                                 

10.1โรคไข้หวัดใหญ่และโรคหวัด เป็นคนละโรค แต่มีวิธีติดต่อ อาการ วิธีวินิจฉัย และแนว ทางการรักษา
         ในระยะแรก เหมือนกัน ที่แตกต่าง คือเกิดจากติดเชื้อไวรัสคนละชนิด                                                                             
  10.2อาการจากไข้หวัดใหญ่ รุนแรงกว่ามากและมีอาการรุนแรงทันที แต่อาการของไข้หวัด
          จะค่อยเป็นค่อยไป           
  10.3โรคไข้หวัดใหญ่มักเกิดโรคข้างเคียงแทรกซ้อนได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง                                                      
  10.4ในไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจรักษาด้วยยาต้านไวรัสตั้งแต่แรก                                               
 
10.5โรคไข้หวัดใหญ่มีวัคซีนป้องกัน (ปรึกษาแพทย์เรื่องการได้รับวัคซีนเมื่อเป็นกลุ่มเสี่ยง) แต่ไข้หวัดไม่มี                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                           สร้างเว็บบล็อก  (Blogger)                                                                              
 1.  เข้าไปที่ http://www.blogger.com/   จะเจอหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้ ดังรูป                                                                                                                         

                      2.  เมื่อท่านคลิกนี้ จะ ปรากฏดังรูปด้านล่าง                                                                           
 3.
 ให้ใส่รายละเอียดดังรูป
                                                                                                                                                 
-ที่อยู่อีเมล:(จากที่ท่านได้สมัคร Gmail)                                                                                                                               
       
-Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง                                                                                           
        -Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)                                                                                                       -   พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง                                                                                                                                      
       -คลิกดำเนินต่อไป >                        

                 
      
    
  
4.  จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน       
                                           
-คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไป หรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้         
  และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่น  
อีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป

    

5.  จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตาม  ต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไปถึงตอนนี้คุณก็จะมีบล็อกกับกเกิลแล้ว  อย่าลืมจดจำคือ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       1  อีเมลล์ของ gm                                                                                                                                                                                          2  URL เว็บบล็อก   
                                      
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     บทที่3                                                                                                                                                   วิธีการดำเนินโครงงาน                                                                                                       3.1  โปรแกรมที่ใช้ในการทำโครงงานบทที่3                                                                                                                                                            
   3.1.1  โปรแกรม Power Point3.                                                                                                                                                                 3.1.2  โปรแกรม Microsoft Word 2007                                                                                                        
3.1.3   เว็บไซต์ที่ให้บริการ   คือ http://www.blogger.com/ 
3.1.4  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com , www.gmail.com ,   www.google.com    
                                                                                                                                                                                                              
3.2 วิธีการดำเนินโครงงาน



                                                                                           บทที่ 4

                                                                                  ผลการดำเนินงาน

             4.1) ผลการดำเนินงาน
   คณะผู้จัดทำสามารถดำเนินการได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยการวางแผนวิธีดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และมีการนำเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมาใช้ในการทำโครงงาน เช่น
1.การรวบรวมข้อมูล “โรคไข้หวัดใหญ่” จากทางอินเตอร์เน็ต

2.การศึกษาวิธีการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้เป็นสื่อในการเผยแพร่ความรู้เรื่อง “โรคไข้หวัดใหญ่” จากทางอินเตอร์เน็ต                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                    
   บทที่ 5
                                                                                  สรุป   อภิปรายและข้อเสนอแนะ
การจำทำโครงงานโรคไข้หวัดใหญ่  นี้สามารถสรุปผลการดำเนินโครงงาน และข้อเสนอแนะ ดังนี้

 วัตถุประสงค์ของโครงงาน                                                                                                                                                                 1.   เพื่อศึกษาและพัฒนาเว็บบล็อก เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่
       2.  เพื่อเป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
       3.  เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป

  วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ โปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา  
            1.   โปรแกรม Power Point
            2. โปรแกรม Microsoft Word 2007
            3.  เว็บไซต์ที่ให้บริการคือ http://www.blogger.com/  
            4.   เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารคือ www.facebook.com  , www.gmail.com , www.google.com                                                                                                                                                                                                                            
สรุปผลการดาเนินงานโครงงาน
     จากการดำเนินงานโครงงานการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่ในครั้งนี้สรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
       ทำให้ได้เว็บบล็อกเรื่อง โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นสื่อทางการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้เกิดประโยชน์กับบุคคลที่สนใจทั่วไป   ส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคไข้หวัดใหญ่

ข้อเสนอแนะ 
ควรมีการจัดทาเนื้อหาของโครงงานให้หลากหลายให้ครบทุกกลุ่มสาระ การเรียนรู้

 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา
        1.  เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการทำโครงงาน และบางครั้งอินเทอร์เน็ตมีปัญหา
        2.  อินเทอร์เน็ตล่าช้า จึงทำให้เสียเวลาและทำให้โครงงานเสร็จช้า                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                            ภาคผนวก








                                                                           


         
                                                                                    

                                                                                     ที่อยู่เว็บบล็อกของผู้จัดทำ
                                                                             http://influenzaklongkru.blogspot.com/                                                                                                                                                                                                                                                                                              บรรณนานุกรม
http://webcache.googleusercontent.com
http://emedicine.medscape.com/article/219557-overview#showall
http://emedicine.medscape.com/article/219557-                                         overview#showallhttp://influenzaklongkru.blogspot.com/2016/03/blog-post.html